วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ระบบศักดินา ( Feudalism )

ระบบฟิวดัล(Feudalism)
ระบบฟิวดัล(ระบบศักดินาสวามิภักดิ์)มีที่มาอย่างไรและ เกิดขึ้นได้อย่างไร เป็นลักษณะการปกครองและสังคมของชนเผ่าเยอรมัน(เน้นความผูกพันระหว่างนักรบกับและหัวหน้านักรบตามประเพณี Comitatus โดยกษัตริย์กระจายอำนาจไปสู่หัวหน้าหรือกลุ่มนักรบ)และลักษณะการปกครองที่สืบทอดมาจากโรมัน(ระหว่างผู้อุปการะกับผู้รับอุปการะและความสัมพันธ์ระหว่าง นายกับข้าทาส) ผสมผสานกันเป็นรากฐานของยุโรปสมัยกลาง ในช่วงที่อาณาจักรโรมันล่มสลาย  ชาวนาเจ้าของที่ดินต้องหลบหนี ลี้ภัย เกิดความหวาดกลัว จึงต้องยกที่ดินให้ผู้มีอำนาจเพื่อขอความคุ้มครองเจ้าของที่ดินเดิมเปลี่ยนสภาพมาเป็นผู้เช่าที่ดิน  แต่เป็นเสรีชนและกษัตริย์มีอาณาจักรกว้าง
          Feudal มาจากภาษาลาตินว่า Feudum ตรงกับภาษาอังกฤษว่า Fief แปลว่าดินเนื้อที่หนึ่งระบบฟิวดัลมีที่ใดบ้าง เกิดในฝรั่งเศสคริสต์ศตวรรษที่ 5 ที่อิตาลีคริสต์ศตวรรษที่ 6  นำมาใช้ในอังกฤษต้นศตวรรษที่ 11 และในเยอรมัน
         ลักษณะความสัมพันธ์ในระบบฟิวดัลเป็นอย่างไร
ระบบฟิวดัลเป็นความสัมพันธ์ระหว่าง Lord (เจ้านาย) กับVassal (ผู้พึ่ง) เป็นระบบการกระจายอำนาจออกจากศูนย์กลางกษัตริย์ไปยังขุนนางแคว้นต่างๆ ขุนนางต่างมีกองทัพของตนเอง
หน้าที่ของ   Lord คือพิทักษ์รักษาVassalและที่ดินของ Vassalจากศัตรูและให้ความยุติธรรม ปกป้องคุ้มครองในการพิจารณาคดี                         
         โครงสร้างทางสังคมของระบบฟิวดัล
1.กษัตริย์ มีฐานะเป็น Lord สูงสุดโดยมีขุนนางเป็นVassalมีพันธะผูกพันทางหน้าที่ต่อกัน  กษัตริย์จะพระราชทานที่ดินเป็นการมอบหมายอำนาจในการปกครอง ให้กับขุนนาง อำนาจของกษัตริย์อ่อนลงปกครองราษฎร์ที่อยู่รอบพระนคร    ดินแดนส่วนอื่นๆเป็นของขุนนาง  และมีความผูกพันกับกษัตริย์โดยยกย่องให้เป็นหัวหน้า  มีข้อผูกพันกับกษัตริย์เพราะมีที่ดินอยู่ในอาณาเขตจึงยอมเป็นVassal มีหน้าที่ช่วยเหลือพระเจ้าแผ่นดินยามสงคราม ที่ดินที่กษัตริย์พระราชทานให้สามารถริบคืนได้
ถ้าVassalไม่ปฏิบัติตามสัญญาหรือสิ้นชีวิตโดย ไม่มีทายาท
2. ชนชั้นปกครองหรือขุนนางเจ้าของที่ดิน (Suzerain)นับตั้งแต่อัศวินขึ้นไป
3. ในฝรั่งเศส มีบรรดาศักดิ์เป็น Duke,Earl, Lord, Baron, Countมีการปกครองลดหลั่นตามลำดับขั้น ดูแลปกครองเสรีชนๆมีฐานะเป็น Vassalของ
ขุนนาง  ขุนนางมีฐานะเป็นทั้ง Vassalของกษัตริย์ ซึ่งVassalมีหน้าที่ส่งทหาร
ของตนไปสมทบกับกองทัพของLord   และช่วยเหลือทางการเงินแก่Lord   ขุนนางชั้นสูงยังมีฐานะเป็นLord ของขุนนางชั้นต่ำกว่าลงมา ขุนนางเป็นเจ้าของปราสาทหรือคฤหาสน์
ยังมีขุนนางที่ผ่านการฝึกได้รับการสถาปนาแต่ตั้งให้เป็นอัศวิน(Knight)ไม่ใช่ขุนางที่สืบทอดทางสายโลหิต
3. เสรีชน (villain) ส่วนใหญ่เป็นชาวนา  เป็นผู้เช่าที่ดินซึ่งเคยเป็นของตนเองแต่ไม่มี  
     ภาระผูกติดกับที่ดิน   หรือเป็นเจ้าของที่นาขนาดเล็ก ชาวนารายเล็กๆ
4. ทาสติดที่ดิน(serf) คือชาวนาที่อาศัย ทำกินบนที่ดินตั้งแต่บรรพบุรุษ ต้องผูกติดกับ  ที่ดิน จะโยกย้ายไปไหนไม่ได้ อยู่ในการควบคุมของเจ้านาย ต้องเสียภาษีรัชชูปการ ภาษีผลิตผลที่ผลิตได้ให้เจ้านาย ยอมให้เจ้านายเกณฑ์แรงงานขุดคู สร้างสะพาน
5.  พระและนักบวช  มีบทบาททางการอบรมจิตใจให้แก่สามัญชน การเลื่อนชั้นทางสังคมทำได้หรือไม่
การเลื่อนชั้นทางสังคมของชาวนาอิสระและทาสติดที่ดินทำได้ยากเพราะชนชั้นเจ้าของที่ดินและชาวนามีระบบสืบทอดกรรมสิทธิ์ตามสายโลหิต
การขยายพื้นที่อาณาเขตทำได้โดยวิธีใด
1.  โดยวิธีแย่งชิง ทำสงคราม
2.   การแต่งงานและการรับมรดก
          ระบบแมเนอร์(Manorial System)คืออะไร
เป็นระบบเศรษฐกิจคำว่า “Manor” แปลว่า คฤหาสน์ หมายถึงบริเวณที่ดินที่กว้างใหญ่รอบๆคฤหาสน์ของขุนนางขนาดของที่ดินขึ้นอยู่กับอำนาจและความั่งคั่งของเจ้าของ บริเวณรอบๆคฤหาส์จะมีหมู่บ้าน ชาวนาและทาสติดที่ดิน ช่างฝีมือ พ่อค้า แต่ละแมเนอร์จะมีการผลิตอาหารเลี้ยงตัวเองโดยขุนนางควบคุมการผลิต   ที่ดินที่ขุนนางให้ชาวน ทาสติดที่ดินทำจะแบ่งการเพาะปลูกในระบบ Three fidld System ออกเป็น 3 ส่วน หมุนเวียนทำ ปีแรกทำ แปลงที่ 1และ 2 ส่วน แปลงที่ 3 จะเก็บไว้เลี้ยงสัตว์เพราะเหตุใดระบบฟิวดัลจึงเสื่อม
1.   เนื่องจากการปฏิวัติทางเศรษฐกิจคริสต์ศตวรรษที่ 11
2.   การฟื้นฟูการค้ากับตะวันออกใกล้  มีการไถ่ตัวทาสติดที่ดินเป็นอิสระโดยไปทำการค้า เป็นช่างฝีมือ  มีการเลื่อนฐานะเป็นชนชั้นกลางและมีอิทธิพลางเศรษฐกิจ
3. เกิดโรคะบาด กาฬโรค ทั่วยุโรปในคริสต์ศตวรรษที่ 14 ทำให้แรงงานหายาก ทาสติดที่ดินมีโอกาสเป็นอิสระ  โยกย้ายที่อยู่ ระบบแมเนอร์จึงสลายตัว
4.  มีทหารรับจ้าง  ชาวนา หนีไปเป็นทหารรับจ้าง เกิดจลาจลชาวไร่ ชาวนา
5.  จากสงครามครูเสด และสงคราม 100 ปี ทำให้อัศวินเสียชีวิตมาก กษัตริย์ยึดอำนาจคืนจากขุนนางโดยมีพ่อค้า ชนชั้นกลางสนับสนุน  กษัตริย์เริ่มติดต่อโดยตรงกับประชาชนทรงมีอำนาจปกครองอย่างแท้จริงยุบกองทัพของขุนนาง กล่าวได้ว่าระบบฟิวดัลได้วิวัฒนาการเป็นการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในสเปนและฝรั่งเศส
อัศวิน (Knight)
Knight ตรงกับภาษาฝรั่งเศสว่า Chevalier  บุตรชายของขุนนางเท่านั้นที่จะได้รับการเลี้ยงดูอบรมเพื่อเตรียมตัวเป็นนักรบ  อัศวินที่ผ่านการฝึกตั้งแต่อายุ 7 ปีที่ปราสาท เริ่มจากการรับใช้ท่านผู้หญิง ภรรยาเจ้าของปราสาท อบรมมารยาทราชสำนัก ร้องเพลง เต้นรำ ความสำคัญของธรรมะอัศวิน(ระบบวีรคติ Chivalry การฝึกความสุภาพอ่อนโยน กล้าหาญ เสียสละให้เกียรติแก่ข้าศึกเมื่อข้าศึกยอมแพ้ มีวินัย ช่วยเหลือเมื่อสตรีตกอยู่ในอันตราย ปกปักรักษาคนชรา  เด็ก  หญิงหม้าย)  ฝึกขี่ม้าจากทหารคนสนิทของขุนนาง อายุ 14 ปี เลื่อนฐานะจากมหาดเล็กมาเป็น Squire ต้องขัดเกราะให้ขุนนาง รับใช้ขุนนาง จนอายุ 21 ปี และได้รับการเข้าพิธีแต่งตั้งให้เป็นอัศวินก่อนที่จะเป็นขุนนาง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น